Ballstep

ประวัติผู้จัดการทีม หลุยส์ ฟาน กัล บรมกุนซือนักจด วินัย รายละเอียด ความมุมานะ สู่ความสำเร็จ

ประวัติผู้จัดการทีม หลุยส์ ฟาน กัล บรมกุนซือนักจด ทุกร้อนหนาวของชีวิตกุนซือมือทอง

ประวัติผู้จัดการทีม หลายครั้งที่เราดูบอลแล้วกล้องแพนผ่านไปที่ม้านั่งที่นักเตะและผู้จัดการทีม และ เราก็มักจะได้เห็นตัวตน อิริยาบถต่างๆ ของคนเหล่านั้น แต่ในวันนี้เราจะมาพูดเน้นเรื่องของ ผู้จัดการทีมกัน เท่าที่ไบรอันจำได้ ผู้จัดการทีมแต่ละคน มักจะมีท่าทางประจำแตกต่างกันไป บทความกีฬาที่น่าสนใจ

บางคนชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง เช่น Sir Alex Ferguson หรือ ผู้จัดการทีมชาติไทยคนปัจจุบัน ที่พาทีมไทยความแชมป์ Aff Suzuki Cup 2020 มาโน่ โพลกิ้ง ที่ชอบเรียงขวดน้ำข้างสนาม เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมเฉพาะตัว ก็ว่าได้ แต่จะมีผู้จัดการทีม คนหนึ่ง ที่มักจะนั่งจด คล้ายทำรายงาน ส่งอาจารย์สมัยเรียน จดเป็นบ้าเป็นหลัง ก้มหน้าก้มตาจด

ประวัติผู้จัดการทีม

จริงๆแล้วไม่ใช่เขาคนนี้ คนเดียวที่จด แต่ไบรอันดูบอลมาพอสมควร ไบรอันนำเสนอคนนี้ เพราะ ไบรอันว่าไม่น่าจะมี ผู้จัดการทีมคนไหน บนโลกใบนี้ บ้าจดเท่าแกแล้ว

ยิ่งไบรอันเป็นแฟนคลับ ทีม อัศวินสีส้ม หรือ ทีมชาติฮอลแลนด์ มามากกว่า 20ปี ไบรอันเห็นแกมาคุมทีมหลายรอบ นับวันสมุดจด ยิ่งหนายิ่งใหญ่ขึ้นๆ ไบรอันว่าผู้อ่าน

น่าจะมีคนเดาถูกไม่มากก็น้อยแล้วละ คนคนนั้นคือ  หลุยส์ ฟาน กัล (Louis Van Gaal) ผู้จัดการทีมที่มาดเป๊ะ เข้ม และที่สำคัญ จดทะลุมิติ จดกันวัวตายควายล้ม

หลุยส์ ฟาน กัล เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1951 ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยฟาน กัล เคยเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชน ทำให้เขาอยู่กับฟุตบอลตั้งแต่นั้นมา เริ่มพัฒนามาเล่นลีกกึ่งอาขีพในตำแหน่งกองกลาง ให้กับหลายทีมใน

เนเธอร์แลนด์มากมาย ตั้งแต่ปี 1972 ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถ เป็นครูสอนยิมนาสติกในโรงเรียนไปด้วย

และเมื่อถึงปี 1986 ได้ขยับมาเป็นตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมของทีม อาแซด อัลค์มาร์ (AZ Alkmaar) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศ และภายใน อีก 2 ปีต่อมาได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมในสโมสร อาแจ็กซ์ (Ajax) ทีมชั้นนำที่เรียกได้ว่า ทีมยิ่งใหญ่ตลอดกาล ของลีกทีมหนึ่ง

ประวัติผู้จัดการทีม หลุยส์ ฟาน กัล เขาได้ก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการทีมเต็มยศ ในปี 1991 กับสโมสร อาแจ๊กซ์

สามารถสร้างประวัติศาสตร์ ได้โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีกถึง 3 ครั้ง ในปี 1994, 1995 และ 1996แถมยังคว้าแชมป์ KNBV Cup ในปี 1993 รวมถึงแม้กระทั่งถ้วยยุโรปอันยิ่งใหญ่ตอนนั้น คือ UEFA Cup ปี 1992 UEFA Super Cup ปี 1995 และ 1998

ซึ่งชุดมหาแชมป์นั้น คือชุดที่สรา้งนักเตะ ที่ขึ้นชื่อไปเป็นดาวดังระดับโลก มากกว่าครั้งทีม ในเวลาต่อมา ไล่ตั้งแต่ แพทริค ไคล์เวิร์ต, มาร์ก โอเวอร์มาร์ส, เดนนิส เบิร์กแคมป์, แฟรงก์ เดอ

บัวร์, เอ็ดการ์ ดาวิด, เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ และ ยังมีคนอื่นๆอีกมากมาย ด้วยสิ่งที่เขาทำอันสุดยอดนี้ ทำให้เขาถึงขั้นได้รับมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในปี 1997 ด้วย

สิ่งที่เขาทำไว้น่ายกย่อง ในถิ่นกำเนิด สร้างบันไดที่ทำให้เขาได้มีโอกาส เข้าคุมทีมสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อย่างบาร์เซโลน่าในปี 1997 ชาวคาตาลัน ก็ยิ้มแก้มปริตั้งแต่ปีแรกที่เข้าไปคุม เมื่อเขาสามาถพาทีม คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย ในฤดูกาล1997-1998 และ

1998-1999 รวมทั้งถ้วยโคปา เดล เรย์ หลังจากนั้นเกิดมรสุม ผลงานเริ่มย่ำแย่ ความกดดันเริ่มถาโถม จากทั้งสื่อ และ แฟนบอล หลักๆก็มีหัวข้อเรื่อง เขาสร้างทีม และ ใช้นักเตะทีมชาติตัวเองมากเกินไป ไสตล์เริ่มไม่สวยงาม เขาจึงต้องลาออก จากบาร์เซโลน่าในปี 2000

ในที่สุดโอกาสได้เข้าคุมทีมชาติครั้งแรก การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป ผลงานถือว่าแย่ต้องลงไปอยู่ที่ 3 ของกลุ่มทำให้หมดสิทธิ์เข้ารอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทำให้เขาต้องโดนเด้งจากตำแหน่ง ตอนต้นปี 2002

เขาก็ได้กลับไปสานต่องานที่สโมสรบาร์เซโลน่าอีกครั้งในปี 2002 แต่ผลงานก็บรมห่วย ชนะ 4 ครั้ง เสมอ 4 ครั้ง และแพ้ถึง 3 ครั้ง เขาจึงต้องเจอหั่นขาเก้าอี้อีกครั้งอย่างง่ายดาย ก่อนจะกลับไปยังอาแจ็กซ์ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเทคนิค และ ก็โดนเด้งอีกเช่นกันอย่างรวดเร็ว

ในปี 2005 ฟาน กัล กลับสู้ออกกอด ของทีม อาแซด อัลค์มาร์ อีกครั้ง สามารถพาทีมยึดอันดับ 2 ในฤดูกาล 2005-2006 และอันดับที่ 3 ในฤดูกาล 2006-2007 รวมถึงแชมป์ KNVB Cup ประจำปี 2006-2007 แต่พอปี 2007-2008 ก็ร่วงลงมาอีก

ในอันดับที่ 11 หากต้องขอบคุณดีกรี เครดิต ที่เขาเคยสร้างไว้ นักเตะที่อยู่ในทีมระดับนี้ ต่างยอมรับ และ ยังคงศรัทธาในตัวเขา ไม่มีอีโก้ซุปเปอร์สตาร์ใดใด จนในที่สุด

ประวัติผู้จัดการทีม

ในปี 2008-2009 ฟาน กัล สามารถพา อาแซด อัลค์มาร์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุด ด้วยสถิติอันยอดเยี่ยมหมดจด โดยแพ้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น

หลังจากทำผลงานยอดเยี่ยมในเนเธอร์แลนด์ ฟาน กัล เดินทางสู่ฟุตบอลเยอรมนี นั่งแท่นผู้จัดการทีม ให้กับเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเขาเคยบอกว่าเป็น สโมสรในฝันสำหรับเขา ฟาน กัล สานต่อ และ จัดระบบระเบียบใหม่ หลังจาก ยุคเจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ด้วยการซื้อ อาร์เยน ร็อบเบนสู่ถิ่นเสือใต้ และกล้าผลักดันนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ทีมใหญ่อย่าง โธมัส มุลเลอร์ ตอนนั้นพากันโชว์ฟอร์มเทพ ฟอร์มเก่งยกทีมพากันคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2009-2010 ได้ รวมถึงแชมป์ Super Cup ในปี 2010 ได้ด้วย และแน่นอนหากเขาเคยทำทีมบ้านเกิด คว้าถ้วยฟุตบอลยุโรป ฟาน กัล พาเสือใต้ตะลุยถึงรอบชิง แต่แพ้ให้กับอินเตอร์ มิลานที่ฟอร์มร้อนแรงคว้า 3 แชมป์ใหญ่ในปีนั้น

แต่ลิขิตฟ้า หรือ จะสู้มานะคน ท้ายที่สุด ฟานกัล ก็พาลูกทีมไปคว้าแชมป์ยุโรปอยู่ดีนั่นแหละ แถมลูกรักเขา ร็อบเบน ยิงประตูเดี่ยวพาทีมคว้าชัย อย่างสวยงาม ไบรอัน จึงภูมิใจนำเสนอ กุนซือคนนี้ ตัวแทนของการ จดจำทำการบ้าน ที่สำคัญ มุมานะ พยายาม และ มีวินัย

“เด็กเนิร์ดสีส้ม”

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top